บันทึกการเรียนครั้งที่ 8
วันอังคารที่ 10 เดือนมีนาคม พ.ศ.2558
ความรู้ที่ได้รับในวันนี้
อาจารย์ได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องการสอบบรรจุข้าราชการครู
ซึ่งในการสอบนั้น จะแบ่งออกเป็น ภาค ก., ภาค ข. และการสอบสัมภาษณ์
ภาค ก. >> มีเนื้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ. การศึกษาไทย, ความรู้ทั่วไป, วิชา 9 มาตรฐานวิชาชีพ
ภาค ข. >> มีเนื้อหาที่เป็นรายวิชาเอก
สอบสัมภาษณ์ >> ผู้สัมภาษณ์ คือ ผู้อำนวยการของแต่ละโรงเรียน
** ในการสัมภาษณ์ เมื่อต้องนำเสนอการสอนต่างๆ
ต้องขออนุญาติก่อน เพื่อการมีมารยาทที่เหมาะสม **
กิจกรรมก่อนเรียน >> เที่ยวทุ่งหญ้าซาวันน่า เป็นเกมสนุกๆ จากแบบทดสอบจิตวิทยา
VDO >> อาจารย์เปิดวีดีโอให้นักศึกษาดู โรงเรียนอนุบาลบ้านพลอยภูมิ
ซึ่งโรงเรียนนี้มีห้องเรียนรวมจาก วีดีโอ การจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนเรียนรวม
มีกิจกรรมดังต่อไปนี้
1.) กิจกรรมที่นำจังหวะดนตรี และเสียงเพลงเข้ามาใช้ในกิจกรรม
- เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย
- กระโดด >> เด็กได้ฝึกการทรงตัว, การสัมพันธ์ซ้ายขวา
2.) กิจกรรม หยิบ ยก ส่ง
- เด็กส่งสิ่งของกับเพื่อนๆ
- มีบทกลอนประกอบ
3.) กิจกรรม กระโดดประกอบอุปกรณ์ คือ ห่วง
- เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย
- มีเสียงดนตรี โดยครูเป่าขลุ่ยเป็นเพลง
4.) กิจกรรมโยน-รับลูกบอล
- เด็กรู้จักการผ่อนหนักเบา
5.) กิจกรรมกิ้งกือ
- มีนิทาน และเพลงประกอบ
6.) กิจกรรมศืลปะสร้างสรรค์
- วาดภาพระบายสีตามจินตนาการ
7.) กิจกรรมกลางแจ้ง
- เด็กๆวิ่งเล่นกัน บริเวณนอกอาคารเรียน
8.) กิจกรรม รับ-ส่งลูกบอล ประกอบอุปกรณ์ คือ ห่วง
- เด็กโยนรับบอล และเดินข้ามไปทีละห่วง
- ประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา
- เด็กรู้จักการผ่อนหนักเบา
^^ เนื้อหาที่เรียนในวันนี้ >> การส่งเสริมทักษะต่างๆ ของเด็กพิเศษ ^^
2. ทักษะทางภาษา
การวัดความสามารถทางภาษา
- เข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูดไหม
- ตอบสนองเมื่อมีคนพูดไหม
- ถามหาสิ่งต่างๆไหม
- บอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นไหม
- ใช้คำศัพท์ของตัวเองกับเด็กคนอื่นไหม
การออกเสียงผิด หรือพูดไม่ชัด
- การพูดตกหล่น
- การใช้เสียงหนึ่งแทนอีกเสียง
- ติดอ่าง
การปฏิบัติของครู และผู้ใหญ่
- ไม่สนใจการพูดซ้ำ หรือการพูดไม่ชัด
- ห้ามบอกกับเด็กว่า "พูดช้าๆ", "ตามสบาย", "คิดก่อนพูด"
- อย่าขัดจังหวะขณะที่เด็กกำลังพูด
- อย่าเปลี่ยนการใช้มือข้างที่เด็กถนัด
- ไม่เปรียบเทียบการพูดของเด็กกับเด็กคนอื่น
- เด็กที่พูดไม่ชัด อาจเกี่ยวข้องกับการได้ยินด้วย
ทักษะพื้นฐานทางภาษา
- ทักษะการรับรู้ภาษา
- การแสดงออกทางภาษา
- การสื่อความหมายโดยไม่ใช้คำพูด
ความรับผิดชอบของครูปฐมวัย
- การรับรู้ภาษา มาก่อนการแสดงออกทางภาษา (ฟังก่อนการพูด)
- ภาษาที่ไม่ใช่คำพูด มาก่อนภาษาพูด (สีหน้า, ท่าทาง)
- ให้เวลาเด็กได้พูด
- คอยให้เด็กตอบ (ชี้แนะ หากจำเป็น)
- เป็นผู้ฟังที่ดี และโต้ตอบอย่างฉับไว (ครูไม่พูดมากเกินไป)
- เด็กไม่ได้เรียนรู้ภาษาจากการฟังเพียงอย่างเดียว
- ให้เด็กทำกิจกรรมกลุ่ม เด็กพิเศษจะได้มีแบบอย่างจากเพื่อน
- กระตุ้นให้เด็กบอกความต้องการของตนเอง (ครูไม่คาดการณ์ล่างหน้า)
- เน้นวิธีการสื่อความหมายมากกว่าการพูด
- ใช้คำถามปลายเปิด
- เด็กพิเศษรับรู้มากเท่าไหร่ ยิ่งพูดได้มากเท่านั้น
- ร่วมกิจกรรมกับเด็ก
การสอนตามสถานการณ์
เช่น ขณะที่เด็กกำลังพยายามติดกระดุม
หน้าที่ครู > 1.) เข้าไปถามเด็ก "ทำอะไรอยู่"
2.) จากข้อที่1 หากเด็กไม่ตอบ ครูต้องบอกบท "ติดกระดุมอยู่ใช่มั้ย เดี๋ยวครูติดให้นะ"
3.) ฝึกให้เด็กพูดตาม "ติดกระดุม'
4.) ครูติดให้ หรือจับมือเด็กติดกระดุม
** ถ้าครูเข้าไปติดกระดุมให้เด็กทันที ในขณะที่เด็กกำลังพยายามติดอยู่นั้น มีผลทำให้
เด็กติดกระดุมด้ายตนเองไม่ได้ และไม่เกิดทักษะทางภาษา เพราะ เด็กไม่ได้บอกความ-
ต้องการของตนเอง **
Post test
ครูสามารถส่งเสริมทักษะทางภาษา ในห้องเรียนเรียนรวมได้อย่างไร
กิจกรรม ดนตรีบำบัด
เด็กได้รับพัฒนาการอย่างรอบด้าน
ด้านร่างกาย >> การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
ด้านอารณ์ >> เด็กสนุกสนาน และได้ผ่อนคลาย
ด้านสังคม >> การทำกิจกรรมร่วมกันกับเพื่อน
ด้านสติปัญญา >> เด็กได้จินตนาการ, การใช้สีที่หลากหลาย และการมีสมาธิ
การนำไปประยุกต์ใช้
1. เป็นแนวทางการอ่านเนื้อหาต่างๆ ในหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาปฐมวัย
เพื่อสอบบรรจุข้าราชการ หลังเรียนจบ
2. สามารถจัดกิจกรรมได้หลากหลายมากขึ้น เช่น โยน-รับ พร้อมเดินข้ามห่วง, กิจกรรมกิ้งกือ เป็นต้น
3. การจัดการเรียนการสอนให้กับเด็กพิเศษ สามถรถจัดได้เหมือนกับเด็กปกติ
4. หากเด็กไม่พูด ครูต้องเรียกชื่อเด็กบ่อยๆ ทุกวัน จะทำให้เด็กสามารถพูดตามได้
5. การจัดห้องเรียนที่ส่งเสริมทักษะทางภาษา สามารถทำได้ เช่น แปะชื่อสิ่งของต่างๆ
ที่อยู่ในห้องเรียน เด็กจะได้สังเกตการเขียนชื่อสิ่งของที่ครูเขียนติดไว้
6. สามารถกระตุ้นให้เด็กบอกความต้องการของตนเอง โดยการเข้าไปถาม
ถ้าเด็กยังไม่พูดก็สามารถบอกบท เพื่อให้เด็กพูดตามได้
7. ให้เวลาเด็กได้พูด ไม่พูดขัดขณะที่เด็กพูด และรับฟังเด็ก
8. สามารถนำกิจกรรมดนตรีบำบัด มาใช้กับเด็กพิเศษ และเด็กปกติได้
ซึ่งการจัดกิจกรรมนี้ จะต้องเงียบที่สุด ^^
การประเมิน
ประเมินตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ จดบันทึกสิ่งที่เรียน
ชอบกิจกรรม และเนื้อหาที่อาจารย์นำมาสอน เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว
และสามารถนำมาไปใช้ได้จริง วันนี้บรรยากาศในห้องเรียนแตกต่าง
กว่าทุกครั้ง เพราะอาจารย์ให้เพื่อนกลุ่มที่เรียนช่วงบ่าย มาเรียนรวมกัน
กับช่วงเช้า ทำให้มีเพื่อนๆในห้องเรียนมากขึ้น รู้สึกเปลี่ยนบรรยากาศ
แต่ก็สนุกสนานมากค่ะ จากที่ไม่ค่อยได้เจอกันกับเพื่อนต่างกลุ่ม
ก็ได้พูดคุยกัน^^
ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆส่วนใหญ่เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ ขณะเรียนมีการ
จดบันทึก เพื่อนๆ ตั้งใจเรียน มีส่วนร่วมในห้องเรียน แต่ก็มีคุย
และส่งเสียงดังบ้าง บรรยากาศสนุกสนานดี มีเสียงหัวเราะ
ทุกคนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมดีมาก
ประเมินอาจารย์ : เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย อาจารย์สอนสนุกมาก มีเนื้อหาที่กระชับ
เข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างประกอบเนื้อหาที่สอน ทำให้นักศึกษาเข้าใจมากขึ้น
นอกจากเนื้อหาแล้ว ยังมีกิจกรรมก่อนเรียนเพื่อให้เกิดความสนุกสนาน
และมีกิจกรรมดนตรีบำบัด รูปแบบใหม่ที่ต่างจากครั้งที่แล้ว ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดี
เหมาะสมการนำไปใช้กับเด็กได้เป็นอย่างดี